kruooy's Blog


ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ข้าพเจ้าเคยผ่าตัด
กุมภาพันธ์ 25, 2010, 5:06 pm
Filed under: Uncategorized

ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ข้าพเจ้าเคยผ่าตัด

          ตอนที่ข้าพเจ้าอยู่ชั้น ม.๒ นั้น ข้าพเจ้ามีเนื้องอกเกิดขึ้นที่สุดฟันข้างในปาก ประมาณ ๑ เซนติเมตร ซึ่งหมอบอกว่าเป็นเนื้องอกที่ต่อมน้ำลาย ข้าพเจ้าก็ไม่เจ็บหรอก เพียงแต่เวลาแปรงฟันมันจะเคืองๆเล็กน้อย แม่ข้าพเจ้าพาไปหาหมอฟันที่คลินิก แต่หมอไม่สามารถรักษาให้ได้ และหมอบอกว่าต้องไปรักษาแผนก หู คอ จมูก แม่ข้าพเจ้าจึงพาไปโรงพยาบาลและหมอบอกว่าต้องผ่าตัดเอาออกเพราะปล่อยไว้นานอาจเป็นเนื้อร้ายได้ จากนั้นข้าพเจ้าก็นอนที่โรงพยาบาล ตื่นเช้ามาเขาก็สั่งให้งดน้ำงดอาหาร จากนั้นก็มีพนักงานพาข้าพเจ้านั่งรถเข็นไปเรื่อยๆจนใกล้ถึงห้องผ่าตัด รู้สึกว่าผู้คนตรงนั้นเยอะมากนั่งเรียงกันเป็นแถวเลย ส่วนมากมีแต่ญาติผู้ป่วย ความรู้สึกตอนที่นั่งรถเข็นไปนั้นรู้สึกว่าข้าพเจ้าเหมือนบุคคลสำคัญเลยเพราะมีแต่คนมองมา และทางเดินนั้นก็ไม่มีคนเลย มีแต่พนักงานที่เข็นข้าพเจ้าเข้าไป ข้าพเจ้าจนอดหัวเราะไม่ได้กับเรื่องนี้ พอเข้าไปในห้องเขาก็จัดให้นอนเตียงและจะมีคนมาถามประวัติการแพ้ยาของเรา ข้าพเจ้ามองไปรอบๆก็เห็นคนที่มาเข้าคิวผ่าตัดเยอะเหมือนกัน และพยาบาลก็เปิดเพลงคลายความกังวลด้วย จากนั้นก็ถึงคิวของข้าพเจ้า มีพนักงานมาเข็นข้าพเจ้าเข้าไปในทางเดินเรื่อยๆจนถึงห้องผ่าตัดตอนนั้นข้าพเจ้าตื่นเต้นมาก บรรยากาศเหมือนในหนังเลย จากนั้นพยาบาลก็วัดความดันโลหิตให้ข้าพเจ้าโดยวัดที่แขนของข้าพเจ้าทั้ง ๒ ข้างเลย มันเป็นเครื่องวัดอัตโนมัติละจะถูกติดไว้จนกว่าจะผ่าตัดเสร็จ และมันจะบีบแขนทั้ง ๒ ข้างของข้าพเจ้าเป็นระยะๆซึ่งมันบีบแน่นมาก หมอยังพูดว่า “คนไข้ฉันตื่นเต้นจังน้อ” แล้วเขาก็เตรียมไฟวงกลมสำหรับผ่าตัด จากนั้นเขาก็ฉีดน้ำเกลือให้ข้าพเจ้า ตอนแรกก็เป็นน้ำเกลือปกติไม่นานหมอก็เอาเข็มฉีดยาฉีดใส่น้ำเกลือ สงสัยว่าจะเป็นยาสลบเพราะตอนที่น้ำเกลือไหลเข้ามาในเลือดของข้าพเจ้านั้นทั้งเย็นทั้งแสบมากๆ ซึ่งข้าพเจ้าก็อดทนไป จากนั้นไม่นานข้าพเจ้าก็รู้สึกเวียนหัวเห็นโลกหมุนของจริงเลย  แต่ก็ไม่มีใครสนใจพูดคุยกับข้าพเจ้าเลย จนข้าพเจ้าถามว่า “หมอคะหนูรู้สึกเวียนหัวจัง” หมอเลยบอกว่า “อ๋อ หมอจะทำให้หนูหลับจ๊ะจะได้ไม่ตื่นเต้นเวลาหมอผ่าตัด” เมื่อข้าพเจ้ารู้อย่างนั้นจึงหลับตา นับ ๑-๒-๓ ไปเรื่อยๆ จำได้ว่าข้าพเจ้านับถึง ๔๒ ก็ไม่รู้สึกตัวแล้ว มารู้ตัวอีกทีตอนที่พยาบาลเรียกชื่อและให้ชู ๒ นิ้ว ให้กำปั้น

         จากนั้นข้าพเจ้าก็ถูกนำมาพักที่ห้องพักฟื้นผู้ป่วยโดยนอนที่รถเข็น ความรู้สึกตอนนั้นแย่มากๆเพราะเขาเข็นข้าพเจ้ามานอนใต้ท้องแอร์ซึ่งทั้งร้อนทั้งหงุดหงิด ทั้งเวียนหัว ข้าพเจ้าอยากจะร้องออกมาดังๆเลยแต่ร้องอย่างไรก็ไม่ออก อยากพูดก็พูดไม่ได้ ขยับแขนขายังไม่ได้เลย  ข้าพเจ้าอยากจะเตะผ้าห่มออกไปจากตัวจริงๆเพราะมันทรมานมาก ข้าพเจ้าพยายามหายใจให้เป็นปกติและมองรอบๆห้องก็เห็นผู้ป่วยที่นอนเหมือนกันกับข้าพเจ้า ส่วนพวกพยาบาลก็คุยกันแต่เรื่องข้าวเที่ยงจะกินอะไรดี ไม่สนใจข้าพเจ้าเลย ข้าพเจ้าจึงด่าเขาในใจ จากนั้นผ่านไปเขาก็เข็นข้าพเจ้าออกมาจากห้องนั้น ข้าพเจ้ารู้สึกดีขึ้นมากที่ได้หายใจอย่างทั่วท้อง และแม่ของข้าพเจ้าก็เดินตามไปติดๆ ตอนนั้นข้าพเจ้าร้องไห้ทั้งๆที่ไม่ได้เจ็บแผลอะไรเลย ยิ่งแม่ข้าพเจ้าปลอบข้าพเจ้ายิ่งร้อง ไม่รู้เป็นอะไร จากนั้นเขาก็พาข้าพเจ้ามานอนที่ห้องพิเศษ นอนได้ไม่นานข้าพเจ้าก็อาเจียนออกมา จนพยาบาลต้องเปลี่ยนที่นอนและชุดให้ใหม่ จากนั้นแม่ข้าพเจ้าก็เอาน้ำแข็งมาประคบให้ ซึ่งตอนนั้นหมดฤทธิ์ยาแล้วก็เริ่มเจ็บแผล ซึ่งแผลในปากนั้นเจ็บจริงๆกินอะไรก็ลำบาก กลืนไม่ได้เลย แขนข้างหนึ่งก็ถูกฉีดเข้าน้ำเกลือ และแม่ข้าพเจ้าก็เฝ้าดูแลตลอดจนครบ ๑ อาทิตย์จึงกลับบ้านได้ จากนั้น ๒ เดือนก็ไปตัดไหมออก ซึ่งก็หายเป็นปกติในที่สุด

 น.ส.สิริลักษณ์  สมบูรณ์ ชั้น ม.๖/๔ เลขที่๔๔


ให้ความเห็น so far
ใส่ความเห็น



ใส่ความเห็น